ศิลปินรุ่นใหม่พร้อมไหม ได้เวลาแลนด์แล้ว!!! โครงการรางวัลยุวศิลปินไทย (Young Thai Artist Award 2025) เวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ชวนศิลปินรุ่นใหม่ร่วมปล่อยใจสร้างสรรค์ผลงานภายใต้ธีม ‘FINE HEART’ ศิลปะให้จับใจ SHARE YOUR HEART WITH YOUR ART ถ่ายทอดทุกเรื่องราว สร้างสรรค์ให้จับใจส่งผลงานได้ทั้ง 6 สาขา ทั้ง สาขาศิลปะ 2 มิติ สาขาศิลปะ 3 มิติ สาขาภาพถ่าย สาขาภาพยนตร์ สาขาวรรณกรรม และสาขาการประพันธ์ดนตรี ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลรวมกว่า 3.3 ล้านบาท สมัครได้แล้ววันนี้ – 31 กรกฎาคม 2568 ที่ https://www.youngthaiartistaward.com/
มูลนิธิเอสซีจี ร่วมกับ บริษัท อินสครู จำกัด จัดกิจกรรม Human Library by มูลนิธิเอสซีจี ภายในงาน “insKru Festival 2025 มหกรรมไอเดียการสอน ตอน Keep ครู Stay ครู เป็นตัวเองในวันที่ฉันเป็นครู” งานดี ๆ สำหรับคุณครู คนที่อยากเป็นคุณครู และคนทั่วไปที่สนใจเรื่องราวในแวดวงการศึกษา ที่จะสร้างแรงบันดาลใจในการเลือกสร้างสรรค์การเรียนรู้ในแบบของตัวเอง สำหรับกิจกรรม Human Library นี้ จัดขึ้นเพื่อร่วมเปิดโลกทัศน์ให้กับคุณครูได้มีโอกาสเรียนรู้และเข้าใจทักษะอาชีพในโลกปัจจุบันที่มีอาชีพมากมายที่กำลังได้รับความนิยม เช่น นักบำบัด UX/UI Designer นักเขียน นักวาดการ์ตูน นักข่าว ฯลฯ เพื่อให้คุณครูสามารถนำไปถ่ายทอดให้เด็กๆ ในห้องเรียนตามแนวคิด Learn to Earn ที่ส่งเสริมให้การเรียนรู้เชื่อมโยงสู่โลกของการทำงานอย่างแท้จริงได้ต่อไป นอกจากนี้ มูลนิธิเอสซีจี ยังได้สนับสนุนวิทยากรจาก 3 สายวิชาชีพ ผู้ช่วยพยาบาล พยาบาล และทันตแพทย์ เข้าร่วมให้ความรู้ในกิจกรรมครั้งนี้ด้วย
โลกยุคปัจจุบันที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ได้เข้ามามีบทบาทในการทำงานในหลายองค์กร ส่งผลให้เกิดความกังวลว่า AI จะมาแทนที่แรงงานมนุษย์แม้ว่าจะมีงานวิจัยของหลายหน่วยงานยืนยันว่า AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงาน ยังไม่สามารถแทนที่แรงงานมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ เพราะยังมีหลายทักษะที่ AI ไม่สามารถแทนที่ได้ โดยเฉพาะ Soft Skills ที่จะช่วยให้มนุษย์ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดแรงงาน ปัจจุบันองค์กรชั้นนำไม่ได้มองหาแต่คนเก่งคนมีความสามารถทางวิชาชีพเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่มองหาพนักงานที่มี Soft Skills ในหลายเรื่อง เช่น ทักษะด้านการสื่อสารหรือภาษา ทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีม ทักษะการคิดอย่างสร้างสรรค์ เป็นต้น รวมถึงต้องการบุคลากรที่มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง หรือ Lifelong learning พัฒนาตนเองตลอดเวลา เพื่อที่จะได้ร่วมกันนำพาองค์กรก้าวสู่ความสำเร็จในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากการจัดอันดับ Top 50 องค์กรในฝันของคนรุ่นใหม่ที่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2025 โดย WorkVenture ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำด้านกลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรบุคคล พบว่าองค์กรชั้นนำหลายแห่ง อาทิ Google องค์กรในฝันอันดับหนึ่ง, บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG องค์กรในฝันอันดับ 2, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด
ความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังจะมีลูกที่เป็นเด็ก Gen Beta (เด็กเกิดปี 2568-2582) หรือที่มีลูกอยู่ใน Gen Alpha ปลายๆ ซึ่งพวกเขาจะเกิดมาและใช้ชีวิตร่วมกับระบบอัตโนมัติ หุ่นยนต์ รวมถึงนวัตกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แล้วคุณพ่อคุณแม่ ควรจะต้องเลี้ยงลูก Gen นี้อย่างไรให้พวกเขาอยู่รอดและมีคุณภาพชีวิตที่ดีได้เมื่อเขาเติบโตขึ้น แนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” ที่มีแก่นสำคัญคือการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning) ที่มูลนิธิเอสซีจี ได้ผลักดันมาตลอดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จนกลายเป็นแนวคิดที่สำคัญมากในยุคของ Gen Beta เพราะรางวัลจากโลกอนาคตไม่ได้มีไว้สำหรับคนที่จบปริญญาแล้วหยุดการเรียนรู้เหมือนที่คนรุ่นเก่าๆ ปฏิบัติกันมาในอดีต แต่โลกอนาคตจะให้รางวัลกับคนที่เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา การเตรียมความพร้อมด้วยการปลูกฝังแนวคิดนี้ให้กับเด็ก Gen Beta จะทำให้เกิดความคุ้นชินและเกิดเป็นพฤติกรรมที่จะต้อง “เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา” เพื่อที่จะมีชีวิตอยู่รอดได้อย่างดีและมีคุณภาพในโลกแห่งอนาคตอันใกล้นี้ และนี่คือ 4 เรื่องสำคัญที่อยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่ใช้เป็นเทคนิคในการเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยของคุณ 1. สร้างวินัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต World Economic Forum (WEF) เคยสำรวจแนวโน้มของตลาดแรงงานทั่วโลกและได้วิเคราะห์ถึงทักษะที่จำเป็นในอนาคต และผลกระทบต่อการจ้างงานไว้เมื่อปี 2023 ว่า Gen
จากปัญหาการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขและสภาการพยาบาลได้พยายามแก้ปัญหาด้วยการผลิตบุคลากร “ผู้ช่วยพยาบาล” เข้ามาช่วยและแบ่งเบางานของพยาบาล แต่ปัญหานี้ก็ยังไม่คลี่คลายลงมากนัก เพราะอัตราส่วนพยาบาลต่อจำนวนประชากร ยังคงเป็น 1 ต่อ 250 และตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2577 จะต้องผลิตบุคลากรเพิ่มให้มากขึ้นเพื่อให้อัตราส่วนพยาบาลต่อประชากรเป็น 1 ต่อ 200 ก็ตาม โรงพยาบาลศิริราช ในฐานะโรงพยาบาลที่เป็นโรงเรียนแพทย์ นอกจากการผลิตแพทย์และพยาบาลให้กับวงการแพทย์แล้ว ยังได้เปิดหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาลขึ้น เพื่อผลิตบุคลากรมาช่วยในส่วนงานของโรงพยาบาลศิริราชและสถานพยาบาลในเครือข่ายเอง โดยเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนภายใต้การบริหารจัดการของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และจากความต้องการผู้ช่วยพยาบาล ทำให้เกิดเป็นความร่วมมือกับมูลนิธิเอสซีจี ในการสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในหลักสูตรนี้มาตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน ที่ผ่านมามูลนิธิเอสซีจี สนับสนุนทุนการศึกษาให้เด็กและเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการให้ทุนในสาขาที่ตอบโจทย์ความต้องการของประเทศตามแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้ เพื่ออยู่รอด ส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน ได้มีการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ในสายอาชีพ ทั้งทักษะวิชาชีพและทักษะชีวิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้อย่างยั่งยืนและมั่นคง เช่นการสนับสนุนทุนการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตร “ผู้ช่วยพยาบาล” กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 179 ทุน เป็นงบประมาณกว่า 4 ล้านบาท รศ. นพ. ตรีภพ เลิศบรรณพงษ์
มูลนิธิเอสซีจี สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนรู้จักและเข้าใจถึงแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด ด้วยการนำทักษะที่มีทั้ง Hard Skill และ Soft Skill มาใช้ในแต่ละโอกาส เพื่อให้อยู่รอดได้ในโลกยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิฯ ได้ให้การสนับสนุนและต่อยอดความรู้ความสามารถของเด็กและเยาวชนไทย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในทุกด้าน โดยเฉพาะการเรียนรู้และการพัฒนาที่จะต้องทำตลอดชีวิต เพื่อที่จะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ตลอดเวลา
มูลนิธิเอสซีจี ส่งเสริมแนวคิด Learn to Earn เรียนรู้ เพื่ออยู่รอด ผ่านโครงการยุวศิลปินไทย Young Thai Artist Award ที่ศิลปินสามารถผสมผสานทักษะ Hard Skill และ Soft Skill ในการสร้างชิ้นงานศิลปะจนประสบความสำเร็จในชีวิต
จากความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนเยาวชนไทยในการพัฒนาทักษะและประสบการณ์ในสายอาชีพ เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในโลกยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา นอกจากที่มูลนิธิเอสซีจีให้การสนับสนุนเรื่องทุนการศึกษาแล้ว ยังสนับสนุนการแข่งขันฝีมือแรงงานมาอย่างต่อเนื่อง
มองสิ่งที่ตัวเองมีแล้วนำไปพัฒนาต่อ สิ่งนั้นจะทำให้เรามีความรู้เกี่ยวกับมันมากขึ้น เราอาจจะรักมันโดยไม่รู้ตัว แล้วทำมันได้ดี และประสบความสำเร็จได้
ตอนที่เห็นย่าป่วยช่วยเหลือตัวเองลำบาก ผมคิดว่าอยากเรียนอะไรที่ได้ช่วยเหลือผู้ป่วย ผมจึงเลือกเรียนสาขากิจกรรมบำบัด จบแล้วเป็นนักกิจกรรมบำบัดตามโรงพยาบาล เป็นอาชีพที่รายได้ดี มั่นคง ถือเป็นการเลือกเรียนรู้ เพื่ออยู่รอด เพราะเป็นอาชีพใหม่และเป็นที่ต้องการในอนาคต