มูลนิธิเอสซีจี องค์กรสาธารณกุศลที่สนับสนุนการเรียนอาชีวศึกษามาอย่างต่อเนื่อง มอบทุนการศึกษารวมกว่า 1.5 ล้านบาท แก่นักเรียนระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง (ปวส.) ที่เข้าร่วมศูนย์ความเป็นเลิศทางอาชีวศึกษา (Excellent Center)
มูลนิธิเอสซีจี องค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งมั่นพัฒนาคน และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเยาวชน ได้ดำเนินโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย 2563 (Young Thai Artist Award 2020) รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เวทีการประกวดศิลปะระดับเยาวชนที่ใหญ่แห่งหนึ่งในประเทศ
SCG Foundation, a public charity focusing on empowering people and promoting youth's ability, is hosting the Young Thai Artist Award 2020 for a trophy bestowed by Her Royal Highness Princess Maha Chakri Sirindhorn.
แลกเปลี่ยน ข้าวกับปลา ฝ่าวิกฤติ คุณไมตรี จงไทรจักร์ กรรมการและผุ้จัดการมูลนิธิชุมชนไท ในสมัยโบราณมนุษย์ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายมีการเพาะปลูกและผลิตอาหารเพื่อบริโภคกันภายในครัวเรือน ต่อมามนุษย์เริ่มมีการติดต่อกันระหว่างครัวเรือน ความต้องการในการบริโภคก็เปลี่ยนไป เริ่มมีรูปแบบการแลกเปลี่ยนโดยการนำสิ่งของหรือผลผลิตที่มีไปแลกเปลี่ยนกับสิ่งของที่ต้องการกับครัวเรือนอื่นตามสัดส่วนที่ได้ตกลงกันไว้ หลังจากนั้นมนุษย์พบรูปแบบการแลกเปลี่ยนใหม่ โดยกำหนดสิ่งของบางอย่างให้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั่นคือ เงิน และเงินจึงถูกใช้เป็นสื่อกลางการแลกเปลี่ยนมาจนถึงปัจจุบัน แต่หลายครั้งที่เกิดสถานการณ์วิกฤตที่ เงิน ไม่สามารถเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ เช่น วิกฤตโควิด-19 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ผู้คนได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเฉพาะธุรกิจและอาชีพที่ต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวเป็นหลัก ช่วงที่ปิดประเทศไม่มีนักท่องเที่ยว ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวก็ดำเนินไปไม่ได้ จำเป็นต้องปิดตัวและพนักงานถูกเลิกจ้าง ชุมชนชาวบ้านที่อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวก็ได้รับผลกระทบตามไปด้วยดังเช่น ชุมชนชาวเลที่ทำอาชีพประมง จุดเริ่มต้นการแลกเปลี่ยนข้าวกับปลา ช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ชุมชนชาวเล โดยเฉพาะจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันแทบทุกครัวเรือนได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะพึ่งพารายได้หลักจากการท่องเที่ยว ชาวเลที่จับปลาเป็นอาชีพหาเช้ากินค่ำแทบไม่มีเงินซื้อข้าวกิน เช่นเดียวกับชุมชนทางภาคเหนือและภาคอีสานก็ได้รับผลกระทบจากมาตรการปิดจังหวัดเพื่อควบคุมและป้องกันการระบาดของโควิด-19 ทำให้ชาวบ้านในชุมชนขาดรายได้และไม่มีเงินพอที่จะหาซื้ออาหารมาประทังชีวิตคนภายในครอบครัว มูลนิธิชุมชนไท เป็นองค์กรที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดกระบวนการพัฒนาคนจนในเมืองและชนบท มองเห็นถึงปัญหานี้จึงร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายประสานความร่วมมือกันเปิดพื้นที่ให้ชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ได้ใช้ศักยภาพด้านภูมิปัญญาและวัฒนธรรมที่มีของชุมชน เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน จึงเป็นที่มาของ “โครงการข้าวชาวนาแลกปลาชาวเล” เริ่มต้นที่กลุ่มชาติพันธุ์ชาวราไวย์ ในจังหวัดภูเก็ต นำปลาจากท้องทะเลมาแปรรูปตากแห้งเพื่อส่งไปแลกกับข้าวสารจาก ชาวปกาเกอะญอ ในจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ทำการตกลงกัน การแลกเปลี่ยนสัดส่วนอยู่ที่ ¼ คือ ปลา 1
คุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี เป็นตัวแทนมอบทุนการศึกษาหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวน 19 ทุน มูลค่า 475,000 บาท
มูลนิธิเอสซีจีขอเชิญสัมผัสพลังศิลป์ของยุวศิลปินเลือดใหม่ ในนิทรรศการโครงการรางวัลยุวศิลปินไทยประจำปี 2563 รางวัลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี และ ประเสริฐ เด่นขจรเกียรติ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมมาตรฐานฝีมือแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน ได้เดินทางไปให้กำลังใจนักเรียนทุนมูลนิธิเอสซีจีคนเก่งที่กำลังเก็บตัวฝึกซ้อมในฐานะตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันฝีมือแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 13
มูลนิธิเอสซีจี มอบถุงยังชีพ 700 ชุด พร้อมสุขากระดาษ 300 ชุด ลงพื้นที่ อ.ปักธงชัย จ.นคราชสีมา และ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยมีเพื่อนพนักงาน จาก บริษัท เอสซีจี ดิสทริบิวชั่น จำกัด(สำนักงานภาคอีสาน) CPAC ภาคอีสาน บริษัทไทยเคนเปเปอร์ จำกัด (มหาชน)
วิกฤต ทำให้ได้พบโอกาส เชฟวรรณ-ศรีวรรณ สุขสบาย อดีตเชฟภัตตาคารชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดเชฟกำลังยืนปรุงอาหารในกระทะอย่างคล่องแคล่วอยู่กับรถเข็นคันเล็ก ๆ ที่ถูกดัดแปลงมาสำหรับขายอาหารตามสั่ง ทั้งสองข้างของรถเข็นถูกล้อมด้วยลูกค้าที่ยืนต่อคิวรออาหารรสชาติเยี่ยม ราคาถูกจากฝีมือผู้ชายที่ใส่ชุดเชฟคนนี้ เขาคือ เชฟวรรณ-ศรีวรรณ สุขสบาย อดีตเชฟภัตตาคารอาหารจีนในโรงแรมชื่อดังของจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดเชียงใหม่ แต่ด้วยผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้ชีวิตของเชฟวรรณต้องพลิกผันจากการเป็นเชฟทำอาหารอยู่ภัตตาคารหรูในโรงแรม มาเป็นเชฟรถเข็นขายอาหารตามสั่ง เชฟวรรณกับวันที่ไม่ได้เป็นเชฟในภัตตาคาร เชียงใหม่เป็นจังหวัดท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยและมีลูกค้าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไป ซึ่งกระทบธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่โดยตรง รวมถึงภัตตาคารอาหารจีนชื่อดังที่เชฟวรรณทำงานอยู่ ก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ต้องยอมปิดตัวลงเช่นกัน ทำให้รายได้ของเชฟวรรณจากที่เคยได้รับเดือนละสองหมื่นกว่าบาทกลายเป็นศูนย์บาทเพียงชั่วข้ามคืน ในขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวยังเท่าเดิม “ช่วงแรกเจ้าของขอลดเงินเดือนจากสองหมื่นเหลือหมื่นนิด ๆ พอช่วงโควิด-19 หนัก ๆ เขาไม่มีเงินจ้างเพราะว่าไม่มีลูกค้า ที่ร้านส่วนใหญ่ที่มาคือนักท่องเที่ยวชาวจีน พอไม่มีนักท่องเที่ยวร้านก็ไปต่อไม่ได้ ต้องปิดในที่สุด” เข้าใจ ยอมรับ ลุกแล้วเดินต่อไป ช่วงที่ตกงานเชฟวรรณได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดป่าแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ การปฏิบัติธรรมครั้งนั้นช่วยให้เชฟวรรณมีจิตใจที่สงบความเครียดหายไป จึงคิดหาช่องทางหารายได้ให้เร็วที่สุด เพราะมีภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบมากมาย เชฟวรรณตัดสินใจรวบรวมเงินที่ยังพอมีอยู่บ้างโดยไม่รอความช่วยเหลือจากใคร นำเงินมาซื้อรถเข็นเพื่อดัดแปลงทำเป็นรถเข็นสำหรับขายอาหารตามสั่ง แล้วเดินตระเวนขายไปตามจุดต่าง ๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งขายในราคาย่อมเยาเพื่อให้ชาวบ้านได้กินอาหารอร่อยฝีมือระดับภัตตาคารในราคาที่ไม่แพง “ผมเข้าใจนายจ้างเพราะเขาเองก็มีภาระที่ต้องแบกรับเยอะเหมือนกัน เครียดและท้อไปก็เท่านั้นเพราะทุกคนก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน คิดหาวิธีเอาความรู้ที่มีมาทำให้มีรายได้ดีกว่า ยอมรับว่าช่วงแรกที่ตัดสินใจออกมาเข็นรถขายอาหาร ผมรู้สึกอายมากเพราะในชีวิตไม่เคยต้องออกมาเข็นขายอะไรแบบนี้
กระทรวงสาธารณสุข สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี และแอสตร้าเซนเนก้า บริษัทผู้ผลิตชีวภัณฑ์ชั้นนำสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ร่วมลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด-19 AZD1222 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด ในหนังสือแสดงเจตจำนงระบุว่าทุกฝ่ายตกลงจะทำงานร่วมกัน เพื่อเสริมศักยภาพด้านกำลังการผลิตของ บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ให้พร้อมรองรับการผลิตวัคซีนจำนวนมากเพื่อให้ประเทศไทยและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมและทันเวลา ทั้งนี้ แอสตร้าเซนเนก้า จะจัดสรรวัคซีนวิจัยดังกล่าวโดยไม่มุ่งหวังผลกำไรในช่วง แพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมกันนี้จะถ่ายทอดเทคโนโลยีและร่วมมือกับสยามไบโอไซเอนซ์ในการติดตั้งกระบวนการผลิต ความร่วมมือดังกล่าวเกิดจากการผลักดันโดยกระทรวงสาธารณสุข ที่สร้างความเชื่อมั่นต่อการผลิตในประเทศไทย ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะได้รับวัคซีนวิจัย AZD1222 หลังจากผ่านการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด โดยมีเป้าหมายเริ่มจัดสรรวัคซีนสำหรับประชาชนชาวไทยได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 หนังสือแสดงเจตจำนงดังกล่าวลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อ. สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ประธานกรรมการ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี ที่กรุงเทพฯ และ มร. เจมส์ ทีก ประธานประจำประเทศไทย แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านการประชุมออนไลน์จากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมี