แม้เราผ่านพ้นช่วงวิกฤต แต่ชีวิตหลังจากนี้ไม่เหมือนเดิม
อะไรที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์กลับมามีกำลังใจ
และทำให้คนไทยชนะโควิดครั้งนี้ได้
ฟังบทสัมภาษณ์เต็ม ๆ
จากนพ.วิศิษฎ์ ผอ.รพ.ศิริราช
จากคลิปนี้ได้เลย
มูลนิธิเอสซีจี เปิดพื้นที่แห่งโอกาสให้เยาวชนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 15-25 ปี ทั่วประเทศ ที่มีใจรักการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ มาประลองความคิดสร้างสรรค์ ประชันไอเดียศิลป์ เพื่อแจ้งเกิดเป็นยุวศิลปินเลือดใหม่ในวงการศิลปะกับโครงการรางวัลยุวศิลปินไทย 2565 หรือ Young Thai Artist Award 2022 เวทีประกวดศิลปะสำหรับเยาวชนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเงินรางวัลรวม 3,300,000 บาท โดยน้องๆ สามารถส่งผลงานเข้าร่วมประกวดได้ถึง 6 สาขา ได้แก่ ศิลปะ 2 มิติ ศิลปะ 3 มิติ ภาพถ่าย ภาพยนตร์ วรรณกรรม และการประพันธ์ดนตรี น้องๆ เยาวชนที่สนใจและมีศักยภาพด้านศิลปะ เชิญมาปลดปล่อยพลัง โชว์ความสามารถ เปล่งประกาย Shine Your Way แจ้งเกิดเป็นดาวดวงใหม่ในวงการศิลปะ สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ – 31 กรกฎาคม 2565 *ยกเว้นสาขาวรรณกรรมปิดรับสมัครวันที่
เพราะโลกในแต่ละวันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว “มูลนิธิเอสซีจี” จึงเดินหน้าผลักดันภารกิจสนับสนุนการเรียนรู้ตามแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” มุ่งสร้างอนาคตให้เยาวชนไทย มอบทุนการศึกษาในระดับ ปวส. และ ป.ตรี รวมถึงหลักสูตรระยะสั้น ได้แก่ ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ด้านเทคโนโลยี IT รวมถึงด้านการส่งเสริมอาชีพทั่วไป โดยในปี 2565 จะมอบทุนการศึกษาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนทั่วประเทศทั้งหมด 245 ทุน โดยที่ผ่านมา มูลนิธิเอสซีจีได้มอบทุนการศึกษาภายใต้แนวคิด Learn to Earn ไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 1,700 ทุน รวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท ได้แก่ ด้านสาธารณสุขและการแพทย์ ด้านอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรม ด้านอาชีวศึกษา และด้านการส่งเสริมความสามารถ/ความเชี่ยวชาญระยะสั้นเพื่อการมีอาชีพ เป็นต้น ซึ่งในปีนี้ มูลนิธิฯ ยังได้เพิ่มทุนการศึกษาในสาขาใหม่ๆ ตามแนวคิด
มูลนิธิเอสซีจี มอบทุนการศึกษา “Learn to Earn” ปี 2565 สนับสนุนการเรียนรู้ตามแนวคิด “Learn to Earn เรียนรู้เพื่ออยู่รอด” มุ่งสร้างอนาคตให้เยาวชนไทย โดยมอบทุนการศึกษาในระดับ ปวส. และ ป.ตรี รวมถึงหลักสูตรระยะสั้น ได้แก่ ด้านอุตสาหกรรม S-curve และ New S-curve ด้านพลังงานสะอาด และ E sport ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดการให้ทุนแต่ละประเภททุนได้ดังนี้ ทุนระยะสั้น หลักสูตรฝึกอบรมการติดตั้งและบำรุงรักษา ระบบผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ เปิดรับสมัคร ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 25 เมษายน 2565รายละเอียดการรับสมัคร ทุนอาชีวะฝีมือชน คนสร้างชาติ เปิดรับสมัคร 15 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2565รายละเอียดการรับสมัคร ทุนระดับปริญญาตรี สาขา E Sport เปิดรับสมัคร 1 – 31
มูลนิธิเอสซีจี นำโดย คุณเชาวลิต เอกบุตร กรรมการบริหารมูลนิธิเอสซีจี พร้อมด้วยคุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี ผนึกกำลังหอการค้าจังหวัดนครปฐม และมูลนิธิไทยพีบีเอส ร่วมส่งมอบห้องชันสูตรความดันลบ (Modular Autopsy unit) แห่งแรกของไทย มูลค่า 5.17 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม โดยมี ดร.พญ.ดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลฯ ร่วมรับมอบ ซึ่งห้องชันสูตรความดันลบนี้ นอกจากจะลดอัตราเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 แล้ว ยังช่วยเพิ่มศักยภาพในการขยายการให้บริการชันสูตรศพกับจังหวัดนครปฐมและจังหวัดใกล้เคียงกว่า 700 ราย ต่อปี ลดภาระงานของโรงเรียนแพทย์ รวมถึงต่อยอดการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโรคโควิด 19 และโรคอุบัติใหม่ในอนาคต ห้องชันสูตรความดันลบ (Modular Autopsy) มีขนาด 80.38 ตร.ม. สามารถควบคุมแรงดันอากาศได้เหมาะสมและปลอดภัย ทั้งระบบความดันบวก (POSITIVE PRESSURE ROOM) เพื่อกำจัดเชื้อโรคและฝุ่น และระบบความดันลบ (NEGATIVE PRESSURE ROOM) เพื่อจำกัดการแพร่กระจายและลดเชื้อไวรัสออกสู่ภายนอกอาคาร โดยมีพื้นที่การใช้งานทั้งสิ้น
“มูลนิธิเอสซีจี” คิกออฟแนวคิด “Learn to Earn” เรียนรู้เพื่ออยู่รอด สร้างอนาคตเด็กและเยาวชน ผ่านภารกิจหลักในการมอบทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนคน Gen Z โดยการเสริมทักษะทางด้านความรู้ความสามารถ (Hard skill) และ ทักษะทางด้านการเข้าสังคมและอารมณ์ (Soft skill) หรือที่เรียกว่า ‘ทักษะแห่งการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21’ (Power Skill) ซึ่งเป็นทักษะที่มีความจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตและการทำงานในยุคปัจจุบันและอนาคต พร้อมเดินหน้าสร้างการรับรู้และความเข้าใจ โดยดึง สไปร์ท – เขื่อน และ ลูกกอล์ฟ มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนคน Gen Z นอกจากนี้ ยังจับมือกับ GMMTV จัดแคมเปญ ‘CLASS of 21st’ นำทัพศิลปินคนรุ่นใหม่ในสังกัดร่วมทำภารกิจที่ต้องอาศัยทักษะความรู้และการใช้ชีวิต ทำให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงการเรียนรู้ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนเท่านั้น สุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “เมื่อก่อน เราอาจจะเคยเชื่อว่าการเรียนในห้องเรียนมีเพียงรูปแบบเดียวที่จำเป็นและเหมาะกับทุกคน แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป รูปแบบการเรียนรู้ก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย ยิ่งโลกไร้พรมแดน ทุกคนสามารถเข้าถึงความรู้ได้ง่ายขึ้น น้องๆ เยาวชนเองก็รู้จักตั้งคำถามกับตัวเองมากขึ้นว่าตนเองชอบอะไร ถนัดอะไร
คุณสุวิมล จิวาลักษณ์ กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี ส่งมอบนวัตกรรมห้องผู้ป่วยฉุกเฉินโมดูลาร์ (Modular ER) มูลค่า 8 ล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมี นพ.ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงพยาบาลฯ ร่วมรับมอบ ซึ่ง Modular ER นี้ นับเป็นนวัตกรรมห้องฉุกเฉินรูปแบบใหม่ ที่จะรองรับการแพร่ระบาดของ COVID – 19 เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยปัจจุบันมีผู้ป่วยฉุกเฉินและผู้ป่วยวิกฤตที่มารับการรักษาจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสาน กว่า 200 รายต่อวัน ห้องฉุกเฉินโมดูลาร์ (Modular ER) มีขนาด 160.99 ตรม. มีจำนวนเตียง 5 เตียง ออกแบบเพื่อแยกและรองรับผู้ป่วยโควิดฉุกเฉินออกจากผู้ป่วยฉุกเฉินทั่วไป ทำให้สามารถรักษาได้รวดเร็วลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย หรือการสูญเสียชีวิต อีกทั้งยังเป็นเกราะป้องกันให้แพทย์และเจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานได้อย่างปลอดภัย โดยห้องดังกล่าวมีระบบควบคุมแรงดันอากาศอย่างเหมาะสมและปลอดภัย ด้วยระบบความดันลบ (NEGATIVE PRESSURE ROOM) เพื่อจำกัดการแพร่กระจายและลดเชื้อไวรัสออกสู่ภายนอกอาคาร ข้อมูลประกอบเพิ่มเติม พื้นที่การใช้งานแบ่งพื้นที่ออกเป็น 6
มูลนิธิเอสซีจี ส่งความห่วงใยถึงมือเด็กและเยาวชน มอบชุดตรวจโควิด 19 (ATK) จำนวน 1,000 ชุด และหน้ากากเฉพาะสำหรับเด็ก จำนวน 1,000 กล่อง ผ่านเครือข่ายจิตอาสา อาทิ สภาเด็กและเยาวชนกลุ่มเขตกรุงเทพใต้ ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก พระราม 8 กลุ่มสายไหมต้องรอด และชุมชนตึกแดงบางซื่อ เพื่อให้เด็กๆ มีอุปกรณ์ปกป้อง ยกการ์ดตั้งสูง ปลอดภัยจากโควิด 19 #มูลนิธิเอสซีจี #ช่วยกันแคร์ดูแลกัน #เชื่อมั่นในคุณค่าของคน
อาหารจาก “โรงครัวมูลนิธิเอสซีจีเพื่อผู้ประสบอุทกภัย” จำนวน 4,500 ชุด รวมทั้งน้ำดื่ม ได้ส่งถึงมือพี่น้องในพื้นที่อำเภอที่ประสบอุกภัยแล้ว โดยมีเครือข่าย ศอบต. บัณฑิตอาสา ช่วยนำลงพื้นที่ ซึ่งวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุง อาหารทั้งหมดรับซื้อจากเกษตรกรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม โดยภาพประกอบนี้จากการตั้งโรงครัวและมอบอาหารจากพื้นที่ อ.แว้ง อ. ยี่งอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ อ.รามัน จ.ยะลา เราขอให้ทุกชีวิตปลอดภัยและขอส่งกำลังใจให้พี่น้องที่ประสบภัยน้ำท่วม