มูลนิธิเอสซีจี หรือ SCG Foundation (เรียกว่า“เรา”) เคารพสิทธิความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการเพื่อพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนของมูลนิธิฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง (รวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าท่านได้รับความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับ การเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) รวมตลอดถึงการลบ และทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทั้งช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่น ๆ ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ดังนี้
1. วัตถุประสงค์การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
1.1 เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญากับเรา ได้แก่ โครงการต้นกล้าชุมชน โครงการกองทุนสัมมาชีพ การสร้างพื้นที่ชุมชนต้นแบบ การช่วยเหลือชุมชน เมื่อเกิดกรณีภัยพิบัติ และการขอการสนับสนุนต่างๆเพื่อสร้างความเข้มแข็งยั่งยืนให้กับชุมชน
1.2 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของเราหรือของบุคคลอื่น
(1) เพื่อการประกาศรับสมัคร การคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ การประกาศผล การสนับสนุนงบประมาณ การดำเนินกิจกรรมต่างๆเพื่อพัฒนาศักยภาพ เช่น การจัดอบรมสัมนา การศึกษาดูงาน และการติดตามผลของการดำเนินงาน ในการดำเนินโครงการต้นกล้าชุมชน
(2) เพื่อการพิจารณาให้การสนับสนุน และเพื่อการติดตามผลการดำเนินกิจกรรม การใช้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุน ในโครงการกองทุนสัมมาชีพ การสร้างชุมชนต้นแบบ และการช่วยเหลือกรณีที่ชุมชนเกิดภัยพิบัติต่างๆ
(3) เพื่อให้เราสามารถจัดการ พัฒนา และดำเนินการอื่นใดๆเกี่ยวกับการดำเนินกิจกรรมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนได้ รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์
(4) เพื่อประโยชน์ทางด้านความปลอดภัย เช่น จัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วย เช่น การเข้าสถานที่ของเรา การเข้าสู่ระบบ (Log in) เข้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
(5) เพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย
1.3 เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ
1.4 เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามบทบัญญัติของกฎหมาย กฏระเบียบ และคำสั่งของผู้ที่มีอำนาจตามกฎหมาย
1.5 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของเรา หรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้
1.6 กรณีที่ท่านให้ความยินยอม เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
(1) เพื่อให้เรา บริษัทในกลุ่มของเรา ส่งข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมให้กับท่านทางอีเมล เอสเอ็มเอส แอปพลิเคชัน โซเชียลมีเดีย โทรศัพท์ และไดเร็กเมล
(2) เพื่อให้เราเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลที่ได้จากการสัมภาษณ์และ/หรือ จากกิจกรรม ทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง เพื่อเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ การประชาสัมพันธ์ การนำเสนอความสำเร็จในการดำเนินโครงการ ซึ่งรวมถึงการจัดทำสื่อต่าง ๆ และนำออกเผยแพร่ต่อบุคคลภายนอกและสาธารณะ ทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์
(3) เพื่อให้เราดำเนินการจัดกิจกรรมนอกจากที่กล่าวมาข้างต้น โดยอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม โดยจะแจ้งให้ทราบและขอความยินยอมจากท่านใหม่เป็นคราว ๆ ไป ทั้งนี้ ท่านสามารถศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับความยินยอมได้ในข้อ 4
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
2.1 เมื่อท่านร่วมโครงการ หรือ กิจกรรมใดๆ เราอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
(1) หากท่านเป็นนักพัฒนาชุมชนที่เข้าร่วมโครงการต้นกล้าชุมชน เราจะเก็บข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วันเดือนปีที่เกิด ที่อยู่ ข้อมูลตามที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน รวมไปถึงข้อมูลจากโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook ID Line ID
(2) หากท่านเป็นผู้ข้อรับการสนับสนุนเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืนในโครงการกองทุนสัมมาชีพ การสร้างชุมชนต้นแบบ และการช่วยเหลือกรณีที่ชุมชนเกิดภัยพิบัติต่างๆ เราอาจเก็บประวัติการทำงาน เอกสารการ จดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ ชื่อ นามสกุล รายได้ เลขที่บัตรประชาชน เลขที่บัญชีของสมาชิก ข้อมูล ผู้ลงนามรับรอง
2.2 เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรมของเรา เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ภาพและ/หรือเสียง ทั้งภาพนิ่ง (รูปถ่าย) และภาพเคลื่อนไหว (วีดิทัศน์) ซึ่งได้จากการที่เราบันทึกภาพบรรยากาศในงาน และการสัมภาษณ์
2.3 ในกรณีที่ท่านเข้ากิจกรรมผ่านระบบออนไลน์ ผู้ให้บริการระบบประชุมออนไลน์อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติมจากที่เราระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ซึ่งท่านสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ที่เว็บไซต์ของผู้ให้บริการระบบประชุมออนไลน์นั้น ๆ
2.4 เมื่อเราสัมภาษณ์ท่าน เราอาจเก็บข้อมูลบางอย่างเพิ่มเติม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ อาชีพ ตำแหน่ง ประวัติและเกียรติคุณของท่าน ความสนใจและความเชี่ยวชาญ อัตรารายได้
2.5 หากท่านเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการ เราจะเก็บข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ข้อมูลบัตรประชาชน รายได้ต่อครัวเรือน การประกอบอาชีพ จำนวนสมาชิกในครอบครัว ภาพและ/หรือเสียง ทั้งภาพนิ่ง (รูปถ่าย) และภาพเคลื่อนไหว (วีดิทัศน์) เพื่อเป็นหลักฐานแสดงถึงความคืบหน้าหรือผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการ
2.6 เราอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่านแม้ว่าข้อมูลชนิดพิเศษนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโนบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้โดยตรง เช่น ในกรณีที่เราต้องเก็บภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน ซึ่งมีข้อมูลการนับถือศาสนาอยู่บนหน้าบัตร แม้ว่าเราจะไม่ได้นำข้อมูลนั้นมาใช้งาน ทั้งนี้ เราจะใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน เช่น การปิดทับ (black out) ข้อมูลที่ไม่จำเป็น
2.7 หากเรามีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลชนิดพิเศษของท่านเราจะดำเนินการโดยได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากท่านหรือเพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น ทั้งนี้ เราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุด ในการจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอเพื่อปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลชนิดพิเศษของท่าน
เรามีการใช้คุกกี้เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กำหนดไว้ตามนโยบายการใช้คุกกี้ https://www.scgfoundation.org/cookie-policy/
3. การขอความยินยอมและผลกระทบที่เป็นไปได้จากการถอนความยินยอม
3.1 ในกรณีที่เราเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยความยินยอมของท่าน ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของท่านที่ให้ไว้กับเราได้ตลอดเวลา ซึ่งการถอนความยินยอมนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว โดยติดต่อ e-mail: kannapob@scg.com
3.2 หากท่านถอนความยินยอมที่ได้ให้ไว้กับเราหรือปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลบางอย่าง อาจส่งผลให้เราไม่สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์บางส่วนหรือทั้งหมดตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ได้
3.3 หากท่านมีอายุไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ก่อนการให้ความยินยอมโปรดแจ้งรายละเอียดผู้ใช้อำนาจปกครองให้เราทราบเพื่อให้เราสามารถดำเนินการขอความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองด้วย
4. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
4.1 เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามประเภทข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท เว้นแต่กฎหมายจะอนุญาตให้มีระยะเวลาการเก็บรักษาที่นานขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถระบุระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลได้ชัดเจน เราจะเก็บรักษาข้อมูลไว้ตามระยะเวลาที่อาจคาดหมายได้ตามมาตรฐานของการเก็บรวบรวม (เช่น อายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี)
4.2 เราจัดให้มีระบบการตรวจสอบเพื่อดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการเก็บรักษาหรือที่ไม่เกี่ยวข้องหรือเกินความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
4.3 กรณีที่เราใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่าน เราจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจนกว่าท่านจะแจ้งขอยกเลิกความยินยอมและเราดำเนินการตามคำขอของท่านเสร็จสิ้นแล้ว อย่างไรก็ดี เราจะยังเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นสำหรับบันทึกเป็นประวัติว่าท่านเคยยกเลิกความยินยอม เพื่อให้ เราสามารถตอบสนองต่อคำขอของท่านในอนาตได้
5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลอื่น
5.1 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราอาจเปิดเผยและแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ให้บริการเกี่ยวกับธุรกรรมและการเงิน (เช่น ธนาคาร หน่วยงานบัญชี) ผู้ให้บริการประกันการเดินทาง ผู้ให้บริการการจัดกิจกรรม ผู้ให้บริการด้านการขนส่ง (เช่น ไปรษณีย์) ผู้ให้บริการทางด้านเทคโลยี (เช่น ระบบคลาวด์ ระบบบล็อคเชน บริการส่ง SMS บริการ data analytics) ผู้ให้บริการจัดทำโปรแกรมและระบบไอทีต่าง ๆ ผู้ตรวจสอบ บริษัทประกัน หน่วยงานของรัฐ (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน) ตลอดจนผู้ผลิตรายการในการทำสื่อประชาสัมพันธ์
5.2 เราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
6.1 เราอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือหรือบุคคลอื่นในต่างประเทศในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างเรากับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่านหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
6.2 เราอาจเก็บข้อมูลของท่านบนคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์หรือคลาวด์ที่ให้บริการโดยบุคคลอื่น และอาจใช้โปรแกรมหรือแอปพลิเคชันของบุคคลอื่นในรูปแบบของการให้บริการซอฟท์แวร์สำเร็จรูปและรูปแบบของการให้บริการแพลตฟอร์มสำเร็จรูปในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน แต่เราจะไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลได้ และจะกำหนดให้บุคคลอื่นเหล่านั้นต้องมีมาตรการคุ้มครองความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม
6.3 ในกรณีที่มีการส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ เราจะปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและท่านสามารถใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามกฎหมาย รวมถึงเราจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ
7. มาตรการความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล
7.1 ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและเราได้นำมาตรฐานความปลอดภัยทางเทคนิคและการบริหารที่เหมาะสมมาใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึงการใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
7.2 เราจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม
8. สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
8.1 ท่านมีสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สรุปดังนี้
(1) ถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับเรา เพื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(2) ขอดูและคัดลอกข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(3) ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
(4) คัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
(5) ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ (anonymous)
(6) ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
(7) แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
(8) ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของเราหรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เราจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาตามคำร้องขอใช้สิทธิของท่านโดยเร็วภายใน 30 วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องขอดังกล่าว และสิทธิตามที่กล่าวมาข้างต้น เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
8.2 ท่านสามารถใช้สิทธิตามกฎหมาย ได้โดยโดยติดต่อ e-mail: kannapob@scg.com (โดยจะเริ่มใช้สิทธิได้เมื่อกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล)
9. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
9.1 ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล: มูลนิธิเอสซีจี ( SCG FOUNDATION ) สถานติดต่อ: เลขที่ 1 อาคาร 1 ชั้น 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทรศัพท์: 02-586-5506
9.2 กรณีที่ท่านมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อเบอร์ 0-2586-3333 หรือ e-mail: data.privacy@scg.com
กรณีที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ เราจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่ผ่านทาง เว็บไซต์นี้ ซึ่งท่านควรเข้ามาตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวเป็นครั้งคราว โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ประกาศ